กิจกรรมที่เกิดขึ้น
ชุมชนร่วมออกแบบกับภาคีที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการพัฒนาเขตอนุรักษ์ของชุมชนประมงพื้นบ้านโดยส่งเสริมให้ชาวประมงพื้นบ้านจัดการทรัพยากรในพื้นที่ให้เป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาเขตอนุรักษ์เพื่อการดูแลทรัพยากรในพื้นที่ของตนเอง และจัดการผลผลิตสัตว์น้ำผ่านช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำทะเลที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงการจัดระบบการทำข้อมูลติดตามตัวชี้วัดความเปลี่ยนแปลง/ความสำเร็จจากการเพิ่มขึ้นหรือความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและการประมง และผลประโยชน์ที่เกิดจากการต่อยอดของชุมชนในทางเศรษฐกิจสร้างรายได้ที่สอดคล้องกับตลาดปัจจุบันเพื่อสรุปบทเรียนและสื่อสารขยายผลต่อไป โดยมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้
- จัดกระบวนการบ่มเพาะและออกแบบแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล ผ่านการจัดกระบวนการกลุ่มในการทำความเข้าใจตัวโครงการและสร้างความเข้าใจร่วมกันเรื่องการบริหารจัดการเขตอนุรักษ์
- สนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล โดยจะสนับสนุนกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ เช่น จัดทำซั้งบ้านปลา ธนาคารปู ในพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ในการจัดการและดูแลทรัพยากรหน้าบ้าน
- ประเมินความเปลี่ยนแปลงทรัพยากรทางทะเล โดยจะร่วมกับที่ปรึกษาทางวิชาการทำการศึกษาตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรจากการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์
ในด้านความยั่งยืน เนื่องจากเป็นการขับเคลื่อนกิจกรรมที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาสอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ที่เป็นเจ้าของมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ในขณะเดียวกัน เป็นการดำเนินโครงการที่สร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนที่มีความรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของ และมีกลไกคณะทำงานในการขับเคลื่อนที่เป็นระบบพร้อมทีมในการบริหารจัดการตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย นอกจากนั้น ชุมชนมียุทธศาสตร์เป้าหมายที่ชัดเจนในการขยายผลการทำกิจกรรมให้เกิดเต็มพื้นที่ชุมชนที่ติดริมทะเลสาบ โดยมีพื้นที่ต้นแบบที่สามารถถ่ายทอดหรือเป็นแหล่งเรียนรู้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เช่น ชุมชนช่องฟืน นอกจากนั้น ยังมีเครือข่ายชาวประมงรอบทะเลสาบทั้งที่จดทะเบียนองค์กรเป็นนิติบุคลหรือการรวมตัวเป็นชมรมฯ ล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการฟื้นทะเลสาบให้เป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่พอเพียงและเกิดความมั่นคงทางด้านอาชีพประมง ด้วยการสร้างการยอมรับเชื่อมนโยบายสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดพัทลุง ที่ต้องการให้พัทลุงเป็นเมืองสีเขียว และคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
จากการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการฯ ได้สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับแกนนำ คนในชุมชนและภาคีความร่วมมือในระดับพื้นที่รู้และตระหนักความสำคัญของสถานการณ์ปัญหาทะเลสาบ ร่วมอนุรักษ์เลหน้าบ้านชายคลอง ผลลัพธ์ของการดำเนินกิจกรรม คนในชุมชนมีความรู้ความเข้าใจถึงปัญหาสถานการณ์ทะเลสาบ พร้อมร่วมอนุรักษ์เลหน้าบ้านชายคลอง จำนวนละ 90 ของคนในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียง พร้อมเข้าร่วมการขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต ในส่วนของสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีความแปรรวนมากขึ้น ส่งผลกระทบสภาพแวดล้อมทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ หรือมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น และสถานการณ์แต่ละปีมีการทบทวนและชวนคิด วิเคราะห์หารแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหา การอนุรักษ์และฟื้นฟูหน้าบ้าน ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์ทรัพยากรชายฝั่งและทะเลอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาคณะทำงานขับเคลื่อนการอนุรักษ์เลหน้าบ้าน ผลลัพธ์เกิดคณะทำงานจำนวน 20 คน ที่สามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เกิดแกนนำต้นแบบที่สามารถถ่ายทอดบทเรียนประสบการณ์การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรและการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีส่วนร่วมจำนวน 10 คน แนวทางยกระดับต่อพัฒนาศักยภาพแกนนำในร่วมเคลื่อนงานอนุรักษ์เชื่อมโยงสู่การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน เสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตผลิตและบริโภคอาหารปลอดภัย และสร้างคนตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของพื้นที่เขตอนุรักษ์ต่อยอดสู่การประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองทะเลโดยชุมชนแบบเข้มข้น และเกิดกลไกร่วมในการส่งเสริมการบริหารจัดการเขตพื้นที่คุ้มครองโดยชุมชน
ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ผลจากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา สามารถแบ่งผลลัพธ์เป็นด้านเขตอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตชาวประมง ดังนี้
เขตอนุรักษ์
- การดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการฯ ได้พัฒนาให้เกิดเขตอนุรักษ์สัตว์น้ำชุมชนในพื้นที่ขนาด 191.4 ตารางกิโลเมตร โดยมีแผนที่จะขอการรับรองประกาศจากรัฐในรูปแบบของข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือ ประกาศจังหวัดว่าด้วยพื้นที่คุ้มครองเขตทะเลโดนชุมชนในปี 2568 สำหรับการดำเนินงานในปัจจุบัน โครงการวางแผนที่จะขยายพื้นที่การดำเนินงานจากแนวเขตเดิม โดยจะจัดเวทีประชาคมกับชุมชนในเดือนมิถุนายน 2568
ทรัพยากรธรรมชาติ
- ปลาที่สูญพันธุ์จากพื้นที่ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ปลาพรม(ไม่พบนานกว่า 40 ปี) ปลากระทิงผ้าร้าย (ไม่พบนานกว่า 10 ปี) ปลากดหัวกบ (ไม่พบนานกว่า 5 ปี) ได้กลับมาพบในเขตอนุรักษ์
- ชนิดสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมงในพื้นที่เพิ่มขึ้นจาก 36 ชนิด เป็น 40 ชนิด ในระยะเวลา 1 ปี
ข้อมูลชนิดพันธุ์สัตว์น้ำและเครื่องมือการจับสัตว์น้ำบริเวณพื้นที่บ้านชายคลองเปรียบเทียบก่อน -หลังการดำเนินงานโครงการฯ จากการทำกิจกรรมอนุรักษ์ฟื้นฟูภายใต้โครงการ ที่ชุมชนสามารถบอกเล่าและนำมาวางแผนงานในอนาคต เห็นความเปลี่ยนแปลี่ยงความสมบูรณ์ของทรัพยากร และเป็นแนวทางที่ชุมชนเลือกใช้ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมีสัตว์น้ำที่จับได้ตลอดปี และจะมีมากเป็นพิเศษในช่วงน้ำหลาก (ตุลาคม-มกราคมของทุกปี) ได้แก่ กุ้งแม่น้ำ(กุ้งก้ามกราม/แม่กุ้ง) ปลาแหยง ปลาลูกเบร่ ปลาหัวโม่ง ปลานิล ปลามิหลัง ปลากด ปลาตะเพียน ปลาดุก ปลาช่อน ปลาชะโด ปลาหมอ ปลาลูกขาว ปลาสวาย ปลาบึก ปลากะพง โดยเฉพาะปลาลูกเบร่
วิถีชีวิตชาวประมง
1.การบริโภคอาหารปลอดภัย เกิดการรณรงค์คนบริโภคอาหารปลอดภัย โดยชาวบ้านปรับเปลี่ยนบริโภคสัตว์น้ำ เช่น บริโภคปลาจากเดิม 4 มื้อ/สัปดาห์ เปลี่ยนเป็นบริโภคปลาเพิ่มขึ้นเป็น 14 มื้อต่อสัปดาห์ ที่หาเองหรือคนในชุมชนหามาเป็นอาหารทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ เช่น หมู ไก่ หรือปลาแช่แข็ง แต่มีการต่อยอดบางช่วงปลามาก ราคาถูกให้มีการแปรรูปเก็บไว้บริโภคได้นานขึ้น โดยเฉพาะในหน้ามรสุมสัตว์น้ำทะเลมีน้อย
2.รายได้จากการทำการประมง และเวลาที่ใช้ทำการประมงในพื้นที่
รายได้จากการทำการประมง (ก่อนทำโครงการ)
500 บาท / คน / วัน
เวลาในการทำการประมง (ก่อนทำโครงการ)
5 - 12 ชั่วโมง / วัน
รายได้จากการทำการประมง (หลังทำโครงการ)
800 บาท / คน / วัน
เวลาในการทำการประมง (หลังทำโครงการ)
3 - 8 ชั่วโมง / วัน
รายได้เพิ่มขึ้นจากการทำโครงการ
300 บาท/คน/วัน
เวลาในการทำงานลดลง
2 - 4 ชั่วโมงต่อวัน
ผู้สนับสนุนในอดีตจนถึงปัจจุบัน
- มหาวิทยาลัยทักษิณ
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (อบจ.)
- รพสต
- สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง
- สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพัทลุง
- สำนักงานประมงจังหวัดพัทลุง
- สำนักทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 สงขลา
แผนการดำเนินงานในระยะต่อไป/สิ่งที่ต้องการสนับสนุน
ในระยะ 3-5 ปี ชุมชนวางแผนในการ
- ผลักดันพื้นที่ให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลโดยชุมชน โดยจะขอการรับรองประกาศจากรัฐในรูปแบบของข้อบัญญัติท้องถิ่น หรือ ประกาศจังหวัดว่าด้วยพื้นที่คุ้มครองเขตทะเลโดนชุมชน
- ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน เช่น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เชื่อมโยงกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่
- จัดการผลผลิต อาหารปลอดภัยภายใต้ Blue band เพื่อส่งออกและนำรายได้มาบริหารภายในชุมชนผ่านการสร้างมูลค่าเพิ่มจากสัตว์น้ำที่จับมาได้
- เป็นพื้นที่ต้นแบบในเรื่องการอนุรักษ์ฟื้นฟูโดยชุมชนมีส่วนร่วม ทำให้กิดกลไกของชุมชนในการจัดการทะเลร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลไปยังพื้นที่ใกล้เคียง